2 มิถุนายน 2566

ข่าวประชาสัมพันธ์, ประชาสัมพันธ์

IPSR ร่วมขับเคลื่อนมาตรการการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และ สสส.

IPSR ร่วมขับเคลื่อนมาตรการการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และ สสส.

            จากการร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่ง รศ.ดร.อารี จำปากลาย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ นำมาสู่การขับเคลื่อนมาตรการการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด

 

  

            เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมทีเค พาเลซ คอนเวนชั่น รศ.ดร ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สะท้อนข้อมูลเชิงสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายของหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอดในประเทศไทยและแนวปฏิบัติจากงานวิจัยทั่วโลก ในงานสัมมนาวิชาการอนามัยแม่และเด็ก ครั้งที่ 12 หัวข้อ "ลูกแข็งแรงเริ่มต้นที่แม่กระฉับกระเฉง" ซึ่งร่วมแลกเปลี่ยนและเสวนากับ นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ, ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ประธานราชวิทยาสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีคุณรุ่งรัตน์ พละไกร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิต และยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และนักศึกษาหลักสูตรปริญญาเอก สาขาวิจัยประชากรและสังคม สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ดำเนินรายการ

  

 

            งานเสวนาในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมงานจากทั้งหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค คุณนิรมล ราศรี รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ รวมทั้งผู้บริหารและผู้ขับเคลื่อนการทำงาน ด้านแม่และเด็กของศูนย์อนามัยที่ 1-12 และโรงพยาบาลทั่วประเทศ เข้าร่วมสัมมนา เพื่อทราบถึงความสำคัญและร่วมนำแนวทางของมาตรการสู่การปฏิบัติ