2 พฤษภาคม 2567
ข่าวประชาสัมพันธ์, ประชาสัมพันธ์
ทีแพค ร่วมเป็นวิทยากรในงานอบรมแกนนำส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กในชุมชน “Active Kids Summer Camp” ณ จังหวัดนครพนม จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดอบรมแกนนำส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับเด็กในชุมชน “Active Kids Summer Camp” ให้กับโรงเรียนแกนนำในจังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย ออกกำลังกาย และเล่นกีฬา ให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับเกียรติจากคุณวิวัฒน์ วิกรานตโนรส อดีตรองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. เป็นประธานในการเปิดงาน โดยมีคุณนิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ (สำนัก 5) เป็นผู้กล่าวที่มาและเป้าหมายของงาน ในการนี้ได้มีการชี้แจงบทบาทของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ต่อการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมกับมีการบรรยายโดย ผศ.ดร.อารีกุล อมรศรีวัฒนกุล อาจารย์ประจำวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ในหัวข้อยุทธศาสตร์ส่งเสริมกิจกรรมทางกายเด็กและเยาวชนประเทศไทย ความสำคัญ และสถานการณ์กิจกรรมทางกายในเด็ก
ในโอกาสนี้ นายปัญญา ชูเลิศ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยและพัฒนา พร้อมคณะวิจัยจากศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมเป็นวิทยากรในหัวข้อ กิจกรรมการเล่นของไทยและญี่ปุ่นที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ มีทักษะและพัฒนาการที่สมวัย Active Child Program (THAI-ACP) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคุณครูแกนนำเกี่ยวกับความสำคัญของแนวคิด ACP ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ฝึกสอน การทดลองกิจกรรม ACP และการประยุกต์ใช้แนวคิดภายใต้บริบทไทย เพื่อให้คุณครูที่เข้าร่วมอบรมได้เห็นภาพของการนำแนวคิด ACP ไปประยุกต์ใช้สำหรับส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายให้กับเด็ก ๆ ผ่านการออกแบบและทำกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมกันนี้ได้นำเสนอรูปแบบและวิธีการประเมินกิจกรรม Active Kids Summer Camp ร่วมด้วย เพื่อให้คุณครูได้มีเครื่องมือสำหรับใช้ในการประเมินพฤติกรรมด้านกิจกรรมทางกายและความรอบรู้ทางกาย (Physical Literacy) อันสัมพันธ์กับพัฒนาการที่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชนไทย โดยการนำไปพัฒนา/ปรับแผนการเรียนการสอนที่มีอยู่โดยเฉพาะการพัฒนากิจกรรมในวิชาพลศึกษาต่อไป